6 อันดับ ยาป้ายยางพารา รุ่นไหนที่คนใช้เยอะที่สุด อัพเดทล่าสุดปี 2568

ยาเร่งน้ํายางตราสับปะรด ยาหยุด ยอด ทุเรียน ยาป้ายขั้วทุเรียน น้ํายาป้ายทุเรียน น้ํายาบ่มทุเรียน

ชุดฝังเข็มทุเรียน: เหมาะสําหรับเป็นของขวัญเล็กๆสําหรับเด็กแต่ยังเป็นของขวัญที่สมบูรณ์แบบสําหรับคนรักการตกปลา อีทีฟอน 52
เอสแอล: เป็นวิธีที่สนุกและเป็นประโยชน์ในการแสดงบุคลิกภาพของพวกเขา
น้ํายาป้ายทุเรียน: ไม่เป็นอันตรายต่อผิวที่บอบบางและอ่อนโยน
ยาฝังเข็มทุเรียน: จะไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์และสัตว์เลี้ยง
น้ํายาเร่งน้ํายาง: ไม่เป็นอันตรายต่อผิวที่บอบบางและอ่อนโยน

ยาเร่งน้ํายางตราสับปะรด น้ํายา ป้าย ทุเรียน ยาป้ายขั้วทุเรียน น้ํายาป้ายทุเรียน อีทีฟอน 52 น้ําใส

ยาเร่งน้ํายางตราสับปะรด ยาป้ายขั้วทุเรียน น้ํายาป้ายทุเรียน อีทีฟอน 48 1 ลิตร อีทีฟอน 52 เอสแอล

ยาเร่งน้ํายางตราสับปะรด สารเร่งน้ํายาง อีทีฟอน ยาป้ายขั้วทุเรียน น้ํายาป้ายทุเรียน อีทีฟอน 52 เอสแอล

สาร ทํา ดอก ทุเรียน ซันโซ่ อีทีฟอน ยาเร่งทุเรียน มะม่วง น้ํา อีทีฟอน เร่งการสุก ป้ายขั้ว บ่มผลไม้ บ่มทุเรียน เร่งออกดอก ฮอร์โมนเร่งน้ํายางพารา ยาหยอดสับปะรด ประโยชน์ และ
อัตราการใช้: อีทีฟอน เป็นสารที่ปลดปล่อย ก๊าซเอทิลีนซึ่งเป็นสารที่พบมากในผลไม้ที่กําลังสุกแก่ มะม่วง-ใช้เร่งการสุกหลังการเก็บเกี่ยว โดยใช้ อีที-ฟอน 7.7-15.3 ซีซี ผสมน้ํา 20 ลิตร 200-400 ppm จุ่มหรือพ่นให้ทั่วผล แล้วผึ่งให้แห้ง เก็บไว้ในสถานที่อากาศถ่ายเทได้ดี ข้อควรระวัง ไม่ควรใช้กับผลที่ยังไม่แก่จัด เนื่องจากจะทําให้คุณภาพการบริโภคต่ํา กล้วยหอม-ใช้เร่งการสุกหลังการเก็บเกี่ยว ใช้ อีที-ฟอน 19.2-57.7 ซีซี ผสมน้ํา 20 ลิตร 500-1500 ppm จุ่มหรือพ่นให้ทั่วผล แล้วผึ่งให้แห้ง เก็บไว้ในสถานที่อากาศถ่ายเทได้ดี ทุเรียน-ใช้เร่งการสุกหลังการเก็บเกี่ยว ใช้ อีที-ฟอน 38.5 ซีซี ผสมน้ํา 20 ลิตร(1000 ppm จุ่มหรือพ่นให้ทั่วผล แลัวผึ่งให้แห้ง เก็บไว้ในสถานที่อากาศถ่ายเทได้ดี ข้อควรระวัง ไม่ควรใช้กับผลที่ยังไม่แก่จัด เนื่องจากจะทําให้คุณภาพการบริโภคต่ํา กรณีป้ายขั้ว ผสมน้ํา
1:1 ป้ายขั้วที่ติดใหม่ องุ่น-ใช้เร่งการสุก ใช้ อีที-ฟอน 7.7-15.3 ซีซี ผสมน้ํา 20 ลิตร 200-400 ppm จุ่มหรือพ่นให้ทั่วช่อผล ในขณะที่ผลองุ่นเริ่มแก่หรือเริ่มเปลี่ยนสี ข้อควรระวัง ไม่ควรพ่นช่อผลที่ยังไม่แก่ จะทําให้ผลแตกและร่วงได้ ไม่ควรใช้สารในขณะที่อากาศร้อนจัด สับปะรด-ใช้เร่งการออกดอก โดยใช้ อีที-ฟอน 11.5-38.4 ซีซี ผสมน้ํา 20 ลิตร 300-1000 ppm พ่นหรือหยอดบริเวณยอด เมื่อสับปะรด อายุ 9-12 เดือน หลังปลูก หรือต้นสับปะรด มีน้ําหนักสด 2.5-3 กิโลกรัม ข้อควรระวัง ไม่ควรใช้สารในขณะที่อากาศร้อนจัด จะทําให้เกิดอาการใบไหม้ ควรพ่นช่วงเย็นหรือค่ํา ถ้าจําเป็นต้องใช้ซ้ํา การใช้ครั้งที่ 2 ควรใช้ห่างจากครั้งแรกอย่างน้อย 7 วันและเมื่อผสมสารแล้ว ควรใช้ให้หมดภายใน 24 ชั่วโมง ปาล์มน้ํามัน ใช้อีทีฟอน บ่มให้เปลี่ยนสีก่อนส่งขาย ได้ราคาดีขึ้น ยางพารา ใช้อีทีฟอน ผสมน้ําหรือปูนทาหน้ายาง ก่อนทาแผลรอยกรีด เพื่อเพิ่มปริมาณน้ํายาง สามารถผสมน้ําได้ 5-20 เท่า แล้วแต่ความเข้มข้นที่ต้องการ อีทีฟอน เร่งการสุก ป้ายขั้ว บ่มผลไม้ บ่มทุเรียน เร่งออกดอก ฮอร์โมนเร่งน้ํายางพารา ยาหยอดสับปะรด ประโยชน์ และ
อัตราการใช้: อีทีฟอน เป็นสารที่ปลดปล่อย ก๊าซเอทิลีนซึ่งเป็นสารที่พบมากในผลไม้ที่กําลังสุกแก่ มะม่วง-ใช้เร่งการสุกหลังการเก็บเกี่ยว โดยใช้ อีที-ฟอน 7.7-15.3 ซีซี ผสมน้ํา 20 ลิตร 200-400 ppm จุ่มหรือพ่นให้ทั่วผล แล้วผึ่งให้แห้ง เก็บไว้ในสถานที่อากาศถ่ายเทได้ดี ข้อควรระวัง ไม่ควรใช้กับผลที่ยังไม่แก่จัด เนื่องจากจะทําให้คุณภาพการบริโภคต่ํา กล้วยหอม-ใช้เร่งการสุกหลังการเก็บเกี่ยว ใช้ อีที-ฟอน 19.2-57.7 ซีซี ผสมน้ํา 20 ลิตร 500-1500 ppm จุ่มหรือพ่นให้ทั่วผล แล้วผึ่งให้แห้ง เก็บไว้ในสถานที่อากาศถ่ายเทได้ดี ทุเรียน-ใช้เร่งการสุกหลังการเก็บเกี่ยว ใช้ อีที-ฟอน 38.5 ซีซี ผสมน้ํา 20 ลิตร(1000 ppm จุ่มหรือพ่นให้ทั่วผล แลัวผึ่งให้แห้ง เก็บไว้ในสถานที่อากาศถ่ายเทได้ดี ข้อควรระวัง ไม่ควรใช้กับผลที่ยังไม่แก่จัด เนื่องจากจะทําให้คุณภาพการบริโภคต่ํา กรณีป้ายขั้ว ผสมน้ํา
1:1 ป้ายขั้วที่ติดใหม่ องุ่น-ใช้เร่งการสุก ใช้ อีที-ฟอน 7.7-15.3 ซีซี ผสมน้ํา 20 ลิตร 200-400 ppm จุ่มหรือพ่นให้ทั่วช่อผล ในขณะที่ผลองุ่นเริ่มแก่หรือเริ่มเปลี่ยนสี ข้อควรระวัง ไม่ควรพ่นช่อผลที่ยังไม่แก่ จะทําให้ผลแตกและร่วงได้ ไม่ควรใช้สารในขณะที่อากาศร้อนจัด สับปะรด-ใช้เร่งการออกดอก โดยใช้ อีที-ฟอน 11.5-38.4 ซีซี ผสมน้ํา 20 ลิตร 300-1000 ppm พ่นหรือหยอดบริเวณยอด เมื่อสับปะรด อายุ 9-12 เดือน หลังปลูก หรือต้นสับปะรด มีน้ําหนักสด 2.5-3 กิโลกรัม ข้อควรระวัง ไม่ควรใช้สารในขณะที่อากาศร้อนจัด จะทําให้เกิดอาการใบไหม้ ควรพ่นช่วงเย็นหรือค่ํา ถ้าจําเป็นต้องใช้ซ้ํา การใช้ครั้งที่ 2 ควรใช้ห่างจากครั้งแรกอย่างน้อย 7 วันและเมื่อผสมสารแล้ว ควรใช้ให้หมดภายใน 24 ชั่วโมง ปาล์มน้ํามัน ใช้อีทีฟอน บ่มให้เปลี่ยนสีก่อนส่งขาย ได้ราคาดีขึ้น ยางพารา ใช้อีทีฟอน ผสมน้ําหรือปูนทาหน้ายาง ก่อนทาแผลรอยกรีด เพื่อเพิ่มปริมาณน้ํายาง สามารถผสมน้ําได้ 5-20 เท่า แล้วแต่ความเข้มข้นที่ต้องการ