1. พระเครื่อง เหรียญหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก พิมพ์นิยม ยันต์ทะลุ ปี๒๕๒๖ มีสองเนื้อ ทองแดงกับทองเหลือง ผ่านพิธี เลี่ยมกรอบสแตนเลส
เหรียญ หลวง ปู่ ดู่วัด
สะแก: ทําจากสแตนเลสเกรดสูงทนทานและทนต่อการกัดกร่อน เหรียญ เจ้าสัว หลวง ปู่
บุญ: แต่ละแถวเป็นเครื่องหมายลูกไม้นอกจากนี้เรายังมีการรับประกัน ตลอดอายุการใช้งานของผู้ผลิต 10 ปี หลวงปู่ดู่ วัดสะแก
อยุธยา: แต่ละแก้วเป็นเครื่องหมายที่ชัดเจนของแก้วซึ่งหมายความว่ามันจะไม่อยู่ในมือของคุณคุณสามารถคว้าได้อย่างง่ายดาย เหรียญ หลวง ปู่ดุลย์
2521: ฝีมือประณีตเป็นอุปกรณ์เสริมและใช้งานได้จริง
เหรียญเปิดโลกหลวงปู่ดู่: แต่ละแถวเป็นส่วนประกอบที่สมบูรณ์แบบในชีวิตประจําวันแต่ละชิ้นจะไม่เกิดสนิมหรือจางหายไป พระเครื่อง เหรียญหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก พิมพ์นิยม ยันต์ทะลุ ปี๒๕๒๖ มีสองเนื้อ ทองแดงกับทองเหลือง ผ่านพิธีการพุทธาภิเษกโดยเกจิอาจารย์ เลี่ยมกรอบสแตนเลสงานสวยคมชัดพร้อมขึ้นคอบูชา ขนาดจี้ ฐานกว้าง ๓ ซม สูง ๕ ซม ถ่ายภาพจากสินค้าจริงในร้าน สวมใส่ได้ทุกโอกาศ สินค้าหลักร้อย สวยหลักหมื่น มีบริการเก็บเงินปลายทาง รายระเอียดชัดเจน งานสวยคมชัด พุทธคุณเป็นเลิศ พร้อมใข้งาน สินค้าหลักร้อยคุณภาพหลักหมื่น เหมาะสัมหรับเป็นของฝ่ากสําหรับผู้หรับผู้ใหญ่ที่เราเคารพ ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษกโดยเกจิอาจารย์ดัง บันดาลความสําเร็จ โชคลาภ งานปราณีต สวยงาม ถ่ายจากสินค้าจริงในร้าน เหมาะสัมหรับเป็นของฝ่ากสําหรับผู้ใหญ่ที่เราเคารพนับถือ มีบริการเก็บเงินปลายทาง ตรวจดูสินค้าให้เรียบร้อย ใส่ข้อมูลให้ครบถ้วนและถูกต้อง ก่อนทําการยืนยันคําสั่งซื้อ ประวัติหลวงปู่ดู่
นามเดิม: มีชื่อว่า ดู่
เกิด: เมื่อวันที่ ๑๐ พฤษภาคม พ ศ ๒๔๔๗ ตรงกับวันศุกร์ ขึ้น ๑๕ ค่ํา เดือน ๖ ปีมะโรง ซึ่งเป็นวันเพ็ญวิสาขปุรณมี ณ บ้านข้าวเม่า ตําบลข้าวเม่า อําเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กําเนิดในตระกูล หนูศรี
โยมบิดา-มารดา: ชื่อ พุด โยมมารดาชื่อ พ่วง มีพี่สาวร่วมบิดามารดา ๒ คน ท่านเป็นคนที่ ๓ เป็นบุตรคนสุดท้อง อาชีพของโยมบิดามารดาเป็นชาวนา มีฐานะไม่ร่ํารวย เมื่อหมดหน้านา โยมทั้งสองจะช่วยกันทําขนมไข่มงคลออกเร่ขาย หารายได้อีกทางหนึ่ง ขณะที่ท่านยังเป็นทารกน้อย ได้เกิดเหตุอัศจรรย์กับตัวท่านครั้งหนึ่ง กล่าวคือ เวลานั้นเป็นฤดูน้ําหลาก น้ําเหนือได้ไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ราบลุ่มแถบอยุธยาแทบทั้งหมด ท้องนาและบ้านเรือนที่อยู่อาศัยมีแต่น้ําเจิ่งนองไปทั่ว บ้านของโยมหลวงปู่ดู่ก็ถูกน้ําท่วมเช่นกัน วันนั้นโยมมารดาได้เอาเบาะซึ่งท่านนอนอยู่ไปวางตรงนอกชาน ไม่มีระเบียงกั้น ด้วยเห็นว่าเป็นที่โล่งโปร่ง ลมเย็นพัดโชยตลอดเวลา แล้วโยมมารดาก็ไปช่วยโยมบิดาทอดขนมไข่มงคลในครัว ขณะที่โยมทั้งสองกําลังง่วนอยู่กับการทอดขนม ก็ได้ยินเสียงสุนัขเลี้ยง เห่าขรมตรงนอกชาน แล้ววิ่งเข้ามาเห่าในครัวด้วยท่าทางลุกลน ก่อนจะวิ่งพล่านออกไปเห่าตรงนอกชานอีก โยมเห็นสุนัขแสดงกิริยาแปลก ๆ รีบออกจากห้องครัวมาดู มองไปที่เบาะลูกชาย ปรากฏว่า หายไปก็ตกใจสุดขีด วิ่งถลันไปที่สุดนอกชาน กวาดสายตามองหาไปรอบทิศ จึงได้เห็นเบาะหล่นจากชานเรือนลงไปในน้ําที่ท่วมเจิ่งด้านล่าง และลอยไปติดริมรั้ว กลางเบาะนั้นมีลูกชายตัวน้อย ๆ นอนร้องอ้อแอ้อยู่ โยมบิดารีบโดดโครมลงไปในน้ํา ลุยไปที่เบาะลูกชาย เมื่ออุ้มลูกขึ้นมา ปรากฏว่าไม่เป็นอันตรายอย่างใด จึงประคับประคองกลับขึ้นบ้าน ด้วยความรู้สึกอัศจรรย์ใจเหลือจะกล่าว โยมทั้งสองคิดหาสาเหตุที่ลูกตกไปในน้ําพร้อม ๆ กับเบาะก็นึกไม่ออกว่าลูกจะดิ้นจนเบาะเลื่อนไหลไปจนสุดนอกชาน แล้วตกลงไป ก็เป็นไปไม่ได้ เพราะลูกยังไม่คว่ําเสียด้วยซ้ํา จะดิ้นรนตะกายอย่างไร ก็ไม่ทําให้เบาะขยับเขยื้อนเคลื่อนที่ไปไกลถึงเพียงนั้น หรือจะว่ามีลมพัดอย่างแรงถึงกับหอบเอาเบาะลูกหล่นน้ํา ตนอยู่ในครัวใกล้ ๆ ทําไมจึงไม่รู้ว่ามีลมพัด และถ้ากระแสลมรุนแรงถึงขั้นหอบเอาเบาะกับลูกปลิวตกเรือนไปได้ หลังคาบ้านก็คงเปิดเปิงด้วยกระแสลมไปแล้ว และที่น่าแปลกน่าอัศจรรย์ก็คือ เมื่อเบาะมีเด็กทารกนอนอยู่ตกลงไปในน้ํา เหตุใดเบาะไม่พลิกคว่ํา หรือตัวเด็กเลื่อนไหลตกน้ําไป ซ้ําเบาะยังลอยน้ําได้ ซึ่งตามความเป็นจริงแล้ว เบาะไม่ควรจะรับน้ําหนักเด็กไว้ได้ถึงเพียงนั้น โยมบิดามารดาจึงเชื่อมั่นว่า ลูกของตนมีบุญวาสนามาแต่กําเนิดแน่นอน ซึ่งก็เป็นความจริง เพราะทารกน้อยผู้นี้เมื่อเจริญวัยขึ้นมา ก็ได้เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์จนชั่วชีวิต ได้บําเพ็ญเพียรปฏิบัติสมณธรรมจนกล่าวได้ว่า ท่านบรรลุอรหัตมรรคผลอีกรูปหนึ่ง ชีวิตเยาว์วัยของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ท่านต้องเผชิญกับการพลัดพรากที่รุนแรงร้ายกาจอย่างยิ่ง นั่นคือโยมมารดาเสียชีวิตไปก่อนขณะท่านยังเป็นทารก ครั้นอายุได้ ๔ ขวบ โยมบิดาก็เสียชีวิตตามไปอีกคน ต้องอาศัยอยู่กับยาย โดยมีพี่สาวชื่อ สุ่ม เป็นผู้เลี้ยงดูเอาใจใส่ เมื่อเจริญเติบโตถึงวัยเรียน ก็เข้าศึกษาเล่าเรียนเขียนอ่านที่วัดกลางคลองสระบัว วัดประดู่ทรงธรรม และวัดนิเวศน์ธรรมประวัติ
อุปสมบท: อายุครบ ๒๑ ปี จึงได้เข้าพิธีบรรพชาอุปสมบท เมื่อวันที่ ๑๐ พฤษภาคม พ ศ ๒๔๖๘ ตรงกับวันอาทิตย์ แรม ๔ ค่ํา เดือน ๖ ณ วัดสะแก ตําบลธนู อําเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีหลวงปู่กลั่น เจ้าอาวาสวัดพระญาติการาม เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงปู่แด เจ้าอาวาสวัดสะแก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ หลวงปู่ฉาย วัดกลางคลองสระบัว เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า พรหมปัญโญ ภิกขุ ในพรรษาแรก ๆ ท่านได้ศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมที่วัดประดู่ทรงธรรม สมัยนั้นเรียกวัดประดู่โรงธรรม พระอาจารย์ผู้สอนคือ ท่านเจ้าคุณเนื่อง พระครูชม และหลวงปู่รอด เสือ เป็นต้น ในด้านการปฏิบัติพระกรรมฐาน ท่านได้รับการสอนจากหลวงปู่กลั่น ผู้เป็นพระอุปัชฌายาจารย์ และหลวงปู่เภา ศิษย์องค์สําคัญของหลวงปู่กลั่น ซึ่งมีศักดิ์เป็นอาของท่านเอง นอกจากนี้ท่านยังได้ไปศึกษากับพระอาจารย์ฝ่ายกรรมฐานอีกหลายรูป ที่จังหวัดสุพรรณบุรี และจังหวัดสระบุรี ประมาณพรรษาที่สาม หลวงปู่ดู่จึงออกเดินธุดงค์เดี่ยวจากพระนครศรีอยุธยา ไปยังสระบุรี เพื่อไปนมัสการพระพุทธฉาย และรอยพระพุทธบาท จากนั้นก็จาริกย้อนมาทางสุพรรณบุรี ตัดเข้ากาญจนบุรี แต่ธุดงค์ได้เพียง ๓ เดือน ก็ต้องกลับวัดสะแก เนื่องจากอาพาธอย่า